วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดอะซะคุสะ (Asakusa Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นสัญลักษณ์ของอะซะคุสะ หลังจากเดินเข้าประตูคามินาริมง (Karinarimon Gate) และเดินตามถนนนากามิเสะที่เต็มไปด้วยร้านค้าเรียงรายประมาณ 90 ร้าน จะถึงห้องโถงหลัก ซึ่งเป็นที่บูชาพระพุทธรูปโซคันนอน

ประตู Kaminarimon หรือประตูสายฟ้า (Thunder Gate) แรกเริ่มถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 941 ต่อมาถูกไฟไหม้ในปี 1865 และได้ถูกบูรณะใหม่ในปี 1960 ดังรูปที่เห็นในปัจจุบัน
วัดพุทธแห่งนี้ ประดับด้วยโคมไฟกระดาษขนาดใหญ่ทาสีด้วยโทนสีแดงและดำที่สดใสเพื่อเสมือนกับเป็นเส้นทางนำสายฟ้าและฟ้าผ่า
ก่อนที่ท่านจะเข้าไปในบริเวณวัดหรือศาลเจ้าท่านควรทำความเคารพ โดยการโค้งคำนับ 1 ครั้ง นี่คือวิธีการทักทายเทพเจ้าผู้พิทักษ์ของวัดและของศาลเจ้าและเป็นการขออนุญาตเข้าไป


จากประตูแรกเมื่อผ่านเข้าไปจะพบกับถนนทางเดิน (Nakamise-dori) ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้ากว่า 80 ร้านอยู่ตลอดสองข้างทางนักท่องเที่ยวมักจะนิยมซื้อของฝากและของรับประทานกันอย่างมีความสุขที่นี่









เมื่อผ่านโซนร้านค้ามาแล้ว เราจะมาถึงประตู Hōzōmon หรือ "ประตูบ้านสมบัติ" ซึ่งเป็นทางเข้าสู่คอมเพล็กซ์ชั้นใน ภายในบริเวณมีเจดีย์ห้าชั้นโอ่อ่าและโถงหลักซึ่งอุทิศให้กับ Kannon






ไม้แกะสลักรูปมังกรที่ด้านล่างของตะเกียงแดงขนาดใหญ่ที่ Kaminarimon

นักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวญี่ปุ่นและจากต่างประเทศมาที่เซนโซจิทุกปี บริเวณโดยรอบมีร้านค้าแบบดั้งเดิมมากมายและร้านอาหารที่ให้บริการอาหารแบบดั้งเดิม (บะหมี่ทำมือ, ซูชิ, เทมปุระ ฯลฯ ) Nakamise-Dori ถนนที่นำจากประตู Thunder สู่วัดนั้นเรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ ที่จำหน่ายของที่ระลึกมากมายที่ทำเป็นพัด ukiyo-e (ภาพพิมพ์ขัดถู)
เมื่อผ่านประตูนี้มาแล้ว ทางซ้ายมีของท่าน จะเป็นเจดีย์ 5 ชั้นสง่างาม


เมื่อเดินเข้ามาอีกหน่อยทางด้านซ้ายจะพบกับร้านจำหน่ายเครื่องราง ท่านใดที่เคยซื้อไปบูชาแล้ว เขาเล่าว่า ควรต้องเปลี่ยนใหม่ทุกๆปี ส่วนของเก่าจะเก็บไว้บูชาหรือฝากเอาไว้ที่วัดก็ได้นะครับ







อาคารหลักของวัด เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นจุดสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาสักการะ โยนเหรียญขอพรกันที่นี่

การทำความเคารพและขอพร
โค้งเคารพจำนวน 2 ครั้ง โดยกระทำหลังจากที่ท่านได้โยนเหรียญเพื่อการนำโชคลาภและความโชคดีให้สู่ตัวท่าน
หลังจากทำความเคารพแล้ว ให้ท่านตบมือ 2 ครั้ง และหลังจากนั้นให้พนมมือ อธิษฐาน ขอพรต่างๆที่ท่านต้องการต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในวัดหรือศาลเจ้านั้นๆ
เมื่ออธิษฐานจบแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย ให้ทำการโค้งเคารพจำนวน 1 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี ท่านสามารถทำแบบนี้ได้เหมือนกับหมด ทุกๆวัดหรือภายในศาลเจ้านะครับ เป็นการกระทำที่ถูกธรรมเนียมยิ่งนัก
ในญี่ปุ่นเงินที่เสนอให้กับเหล่าเทพเจ้าเรียกว่า "ไซเซ็น" หลายคนเสนอเหรียญ 5 เยนซึ่งมีจำนวนน้อยมาก แต่ไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการประหยัดเงิน การออกเสียงภาษาญี่ปุ่นสำหรับ '5 เยน' นั้นเหมือนกับ 'goen' ซึ่งหมายถึง "โชคดี" หรือ "การเชื่อมต่อที่ดี" ดังนั้นการเล่นคำศัพท์นี้จึงใช้เพื่อแสดงความปรารถนาเพื่อความโชคดี







ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและเข้าสู่ปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมจัดงานเลี้ยงรื่นเริงเหมือนคนไทย แต่กลับไปวัด เพื่อทำบุญตอนเที่ยงคืน เพื่อสวดมนต์ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และหาซื้อเครื่องรางและวัตถุมงคลกลับไปติดที่บ้าน








